อาการที่สำคัญ และวิธีรักษาที่ได้ผล
โรคสมาธิสั้น (ADHD) ไม่ได้เกิดแค่ในเด็ก ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ รู้จักอาการสมาธิสั้นในวัยผู้ใหญ่ วิธีวินิจฉัย การรักษา และผลกระทบที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อพูดถึง “โรคสมาธิสั้น” หรือ ADHD (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder) หลายคนมักนึกถึงเด็กที่ซน นั่งไม่ติด หรือวอกแวกง่าย แต่จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้หายไปตอนโตเสมอไปค่ะ งานวิจัยพบว่า ประมาณ 30-60% ของเด็กสมาธิสั้นจะยังมีอาการต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และบางคนอาจเพิ่งมาตรวจพบตอนเป็นผู้ใหญ่เลยด้วยซ้ำ

อาการสมาธิสั้นในผู้ใหญ่เปลี่ยนไปอย่างไรจากวัยเด็ก ?
โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องมีอาการ “ซน” เหมือนในเด็ก แต่อาจแสดงออกผ่านปัญหาในชีวิตประจำวันแบบที่หลายคนไม่ทันได้สังเกต

อาการที่พบบ่อยในผู้ใหญ่
1. ขาดสมาธิ ลืมง่าย วางของหายเป็นประจำ

2. ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน แต่ไม่เสร็จสักอย่าง

3. วอกแวกง่าย แม้มีเสียงหรือสิ่งรบกวนนิดเดียว

4. รู้ว่าควรทำอะไร แต่ “เริ่ม” ไม่ได้สักที

5. ผัดวันประกันพรุ่ง ทำงานเสร็จนาทีสุดท้ายบ่อยๆ

6. อารมณ์ขึ้นลงง่าย หงุดหงิดง่าย ไม่มีความอดทน

7. มีปัญหาในการจัดการเวลา การเงิน หรือความสัมพันธ์

8. หลายคนอาจโตมาโดยไม่รู้ว่าปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุจากสมอง และคิดว่าเป็นนิสัยหรือความล้มเหลวส่วนตัว จนกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต

การวินิจฉัยในผู้ใหญ่ต่างจากเด็กอย่างไร?

ในเด็ก การวินิจฉัยมักอาศัยข้อมูลจากพ่อแม่ ครู และการสังเกตพฤติกรรม แต่ในผู้ใหญ่ การวินิจฉัยจะอิงจากการซักประวัติอย่างละเอียด รวมถึงอาการในวัยเด็ก และผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์

บางคนอาจไม่มีปัญหาในวัยเด็กมากนัก แต่เมื่อโตขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น สภาพแวดล้อมเปลี่ยน เช่น ต้องจัดการงานหลายอย่าง หรือเรียนระดับสูงขึ้น ก็เริ่มมีอาการชัดเจนขึ้น


การรักษาโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่

  1. ยารักษา
    มีงานวิจัยรองรับว่ายา กลุ่มกระตุ้น เช่น methylphenidate หรือ lisdexamfetamine ยังได้ผลดีในผู้ใหญ่ บางรายอาจใช้ยากลุ่มไม่กระตุ้น เช่น atomoxetine โดยเฉพาะถ้ามีปัญหาความวิตกร่วมด้วย การเลือกยาและขนาดจะต้องพิจารณาโรคร่วม การทำงาน และวิถีชีวิตของผู้ป่วย
  2. จิตบำบัด/การฝึกทักษะ การบำบัดแบบ CBT (Cognitive Behavioral Therapy) ช่วยให้ผู้ใหญ่เข้าใจรูปแบบความคิดของตนเอง และฝึกจัดการพฤติกรรมที่เป็นปัญหา
  3. การฝึกวางแผน ใช้เครื่องมือช่วยจำ การแบ่งงาน และการจัดการเวลา มีบทบาทมากในวัยทำงาน ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจเกิดผลกระทบระยะยาว

ผู้ใหญ่ที่มีสมาธิสั้น แต่ไม่เคยได้รับการวินิจฉัยหรือรักษา อาจเจอปัญหาหลายอย่าง เช่น เปลี่ยนงานบ่อย หรือล้มเหลวในงานที่ควรจะทำได้ดีมีปัญหาความสัมพันธ์ เนื่องจากขาดความสม่ำเสมอหรือลืมเรื่องสำคัญ มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปในการเกิดโรคซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือใช้สารเสพติด

รู้สึกว่าตัวเอง “ไม่เอาไหน” ทั้งที่พยายามเต็มที่แล้ว

สมาธิสั้นในผู้ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากคุณหรือคนรอบตัวมีอาการข้างต้น ไม่ต้องรีบสรุปว่า “เป็นโรค” ทันที แต่อาจลองถามตัวเองว่า…

ปัญหานี้ส่งผลกับชีวิตประจำวันแค่ไหน?

เคยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า?

เคยลองแก้ด้วยตัวเองแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้นไหม?

ถ้าคำตอบคือ “ใช่” การปรึกษาจิตแพทย์อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าใจตัวเองและพัฒนาได้อีกมากเลยค่ะ