เมื่อพ่อแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ หรือพัฒนาการ เช่น ไม่อยู่นิ่ง สมาธิสั้น พูดช้า หรือมีความกังวลสูง คำถามแรก ๆ ที่มักเกิดขึ้นคือ “ควรพาลูกไปหานักจิตวิทยาเด็ก หรือจิตแพทย์เด็กดี?”
หลายครอบครัวสับสน เพราะทั้งสองวิชาชีพต่างก็เกี่ยวข้องกับ “จิตใจและพฤติกรรมเด็ก” แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันชัดเจน ดังนี้
นักจิตวิทยาเด็ก (Child Psychologist) คือใคร?
- จบการศึกษาด้าน จิตวิทยา โดยตรง (ระดับปริญญาโทหรือเอก)
- ทำงานด้าน การประเมินและบำบัดพฤติกรรม/อารมณ์ ของเด็ก
- ใช้เครื่องมือ เช่น แบบทดสอบ IQ, EQ, แบบประเมินพัฒนาการ, แบบทดสอบสมาธิ
- ใช้เทคนิคการบำบัด เช่น การปรับพฤติกรรม (behavior therapy), play therapy, กิจกรรมบำบัดร่วมกับทีมสหวิชาชีพ
- ไม่สามารถสั่งยาได้
เหมาะกับเด็กที่มีอาการ
- สมาธิสั้น (ADHD) ที่ยังไม่รุนแรง
- พูดช้า, พัฒนาการช้า, ปัญหาการเรียนรู้ (LD)
- เด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว ดื้อ ขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคม
- เด็กที่มีความเครียด วิตกกังวล หรือปรับตัวไม่ได้
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น (Child Psychiatrist) คือใคร?
- เป็น แพทย์ (หมอ) ที่เรียนต่อเฉพาะทางด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
- สามารถ ตรวจ วินิจฉัย และสั่งยา ได้
- ทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เช่น นักจิตวิทยา นักกิจกรรมบำบัด นักฝึกพูด
- เน้นการดูแลในกรณีที่เด็กมีอาการรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
เหมาะกับเด็กที่มีอาการ
- สมาธิสั้นที่รุนแรงจนเรียนหรือใช้ชีวิตไม่ได้
- ออทิสติกที่มีปัญหาด้านอารมณ์หรือพฤติกรรมร่วมด้วย
- ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลรุนแรง หรือมีอาการทางจิตเวช
- ต้องการพิจารณาใช้ยาเพื่อช่วยควบคุมอาการ
พ่อแม่ควรเลือกพาลูกไปหาที่ไหนดี?
- ถ้าเพิ่งเริ่มสังเกตว่าลูก พูดช้า ไม่อยู่นิ่ง สมาธิสั้น หรือมีพฤติกรรมที่น่ากังวล สามารถประเมินกับ นักจิตวิทยาเด็ก หรือ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นได้ โดยคุณหมอจะตรวจ ซํกประวัติและประเมิน หากคุณหมอพิจารณาว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ยา สามารถส่งต่อให้กับนักจิตวิทยาเด็ก เพื่อรักษาต่อเนื่องได้
- แต่ถ้าลูกมีอาการ รุนแรงมาก กระทบการเรียน ชีวิตประจำวัน หรือมีความเสี่ยงด้านอารมณ์ → ควรพบ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โดยตรง
- ในหลายกรณี นักจิตวิทยาเด็กและจิตแพทย์เด็กทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยให้เด็กได้รับการดูแลครบทุกด้าน
ข้อคิดสำคัญสำหรับพ่อแม่
อย่ารอให้อาการรุนแรงจนส่งผลต่อชีวิตลูก เพราะการพาไป ประเมินและปรึกษาเร็ว ช่วยให้การดูแลง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสให้ลูกพัฒนาศักยภาพได้เต็มที่
เขียนโดย พญ.สิริน ปุญญโชติ
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น