เข้าใจลูกให้มากขึ้น ด้วยมุมมองจากจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

พ่อแม่ทุกคนต่างอยากให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุข แต่หลายครั้งกลับสับสนเมื่อลูกมีพฤติกรรม “เอาแต่ใจ”, “ไม่เชื่อฟัง”, หรือ “ขี้หงุดหงิด” โดยไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร การเข้าใจจิตวิทยาเด็กคือ “กุญแจสำคัญ” ในการตอบสนองพฤติกรรมเหล่านี้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ตรงจุด

พฤติกรรมของเด็กที่พบบ่อย และ สาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง

1. เด็กงอแง ร้องไห้บ่อย

เกิดจากความไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือสื่อสารความต้องการได้เต็มที่ในวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงวัย 1–3 ปี

แนวทางรับมือ:
– ช่วยลูกตั้งชื่ออารมณ์ เช่น “หนูรู้สึกโกรธใช่ไหม”
– ให้เวลากอด ปลอบใจ โดยไม่ตามใจจนเสียระบบวินัย

2. เด็กไม่เชื่อฟัง ดื้อ ต่อต้าน

อาจเป็นสัญญาณของความต้องการอิสระ หรือบางครั้งเกิดจากความเครียดที่เขาไม่รู้วิธีระบาย

แนวทางรับมือ:
– ตั้งกฎชัดเจน สั้น กระชับ
– สื่อสารด้วยน้ำเสียงนิ่ง สุขุม ไม่ข่มขู่
– ให้ตัวเลือก เช่น “ลูกจะอาบน้ำก่อนหรือแปรงฟันก่อนดี?”

3. เด็กเก็บตัว ไม่พูด ไม่เล่น

อาจสะท้อนถึงความไม่มั่นใจ ความกังวล หรือประสบการณ์ไม่ดีในอดีต

แนวทางรับมือ:
– สร้างพื้นที่ปลอดภัย ไม่เร่งให้พูด
– ชวนเล่นอย่างอ่อนโยน เช่น เล่นบทบาทสมมติ
– ถ้ายาวนานเกิน 2-4 สัปดาห์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

จิตวิทยาการส่งเสริมพัฒนาการอย่างถูกวิธี

เล่น = พัฒนา

การเล่นช่วยกระตุ้นสมองและทักษะสังคม เช่น เล่นตัวต่อ พัฒนาการคิดเชิงตรรกะ, เล่นบทบาทสมมติช่วยเรื่องความเข้าใจอารมณ์

ตั้งเวลา = วินัย

สร้างกิจวัตรที่ชัดเจน เช่น เวลาเข้านอน, เวลาอ่านนิทาน ช่วยให้เด็กเกิดความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง

ชื่นชมพฤติกรรมดีแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย

จิตวิทยาเด็กชี้ว่า “คำชมแบบเจาะจง” ช่วยเสริมความมั่นใจมากกว่า เช่น “แม่ชอบที่ลูกเก็บของเล่นเรียบร้อยนะ” แทน “เก่งมาก”

เมื่อไหร่ควรพาลูกพบผู้เชี่ยวชาญ ?

หากพฤติกรรมที่กังวลยังคงอยู่ต่อเนื่องนานกว่า 4 สัปดาห์ เช่น
– พูดน้อยลงมาก
– มีอารมณ์รุนแรงหรือทำร้ายตัวเอง
– ไม่สนใจสิ่งรอบตัว

ควรพบจิตแพทย์เด็กหรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการ เพื่อประเมินและช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

พ่อแม่คือ “นักจิตวิทยาคนแรก” ของลูก

การเข้าใจพฤติกรรมจากมุมจิตวิทยาเด็ก จะช่วยให้เราตอบสนองอย่างถูกต้อง ไม่ใช่แค่ “จัดการปัญหา” แต่คือ “สร้างการเติบโตที่ดี” ให้กับลูกในระยะยาว